
ชั้นวาง ซุปเปอร์มาร์เก็ต แบบมินิมาร์ท ตัวต้น แผ่นหลังเจาะรู มีชั้นวาง 1 ด้าน มีให้เลือก 2 สี คือ แดง และน้ำเงิน มี 4 ชั้น รับน้ำหนักได้ชั้นละ 25-35 กิโลกรัม
ร้านขายสินค้าส่วนใหญ่มักจะมีผู้ขายซึ่งเป็นเจ้าของกิจการเอง หรือบางร้านอาจมีการจ้างพนักงานขายของโดยเฉพาะเพื่อทำหน้าที่คอยแนะนำให้คำอธิบายต่างๆ แก่ลูกค้า หากเป็นร้านขนาดใหญ่มีสินค้าหลายชนิดย่อมทำให้ต้องมีพนักงานขายจำนวนมาก การจัดตกแต่งร้านค้าจึงมีความสำคัญมาก ควรคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้
- แสงสว่างภายในร้าน หากเราเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ ซึ่งเป็นร้านลิขสิทธิ์จากต่างประเทศ เช่น 7-Eleven เราจะเห็นได้ว่ามีความสว่างทั่วทั้งร้านจากแสงไฟฟ้าที่ร้านได้ติดเอาไว้ แสงสว่างธรรมชาติ หรือแสงแดดมักไม่เพียงพอและทำความเสียหายให้แก่สินค้า ดังนั้นการใช้แสงไฟฟ้า แม้จะมีค่าใช้จ่ายสูงแต่ก็จูงใจลูกค้าให้เข้ามาซื้อสินค้าได้มากกว่าร้านที่ดูมืดๆ หากสินค้าตัวใดต้องการให้ลูกค้าสนใจเป็นพิเศษควรใช้สปอร์ตไลท์ส่องเรียกความสนใจแสงไฟ ภายในร้านควรเลือกใช้แสงจากหลอดฟลูโอเรสเซนท์ แต่ก่อนตัดสินใจเรื่องแสงสว่างควรรู้ว่าค่าไฟฟ้าจะเป็นสักเท่าไหร่ และใช้ไฟฟ้ากี่ดวงถึงจะคุ้มค่ากับการขายสินค้าด้วย
- การตกแต่งสีภายนอกและภายในร้าน นอกจากการทาสีร้านค้าให้สดใสสว่างสวยงามแล้ว สีของบรรจุภัณฑ์และตัวสินค้าก็สามารถนำมาตกแต่งให้ร้านค้าดูดีขึ้นได้ จะต้องจัดชั้นวางโดยให้ผู้คนเห็นสินค้า ชัดเจนและสวยงาม แต่ก็ไม่ควรนำสินค้าที่ต่างชนิดกันแต่สีเดียวกันมาวางไว้รวมกัน เพราะจะทำให้ดูเหมือนกันไปหมด จึงควรแยกสินค้าที่มีสีสรรเหมือนกัน แต่ต่างชนิดกันเรียงไว้ต่อๆ กัน เพื่อให้เห็นความแตกต่าง
- การจัดวางสินค้าบริเวณทางเข้าร้าน บริเวณใกล้ ๆ ทางเข้าร้านเป็นที่เหมาะสำหรับจัดวางสินค้าที่ต้องการเสนอขายเป็นพิเศษ เพราะเป็นที่ที่ลูกค้าทุกคนต้องเดินผ่านเข้าออก การจัดสินค้าไว้บริเวณนี้จึงทำให้สะดุดตา โดยเฉพาะบริเวณเคาน์เตอร์ชำระเงินที่ลูกค้าเข้าแถวรอที่จะชำระเงิน ควรหาของชิ้นเล็กๆ ที่ลูกค้าอาจลืมซื้อมาจัดวางไว้
- การจัดหมวดหมู่ของสินค้า ควรจัดสินค้าที่มีการใช้สอยที่คล้ายคลึงกันหรือใช้ร่วมกัน วางไว้บริเวณเดียวกัน เช่น น้ำดื่ม เครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลม เครื่องใช้ในครัว ขนมปังสดและเบเกอรี่ ขนมขบเคี้ยว เสื้อผ้า เครื่องใช้เด็กอ่อน เป็นต้น
- การติดป้ายบอกประเภทของสินค้า เพื่อให้รู้ว่าสินค้าอยู่ที่ใด เป็นการติดป้ายบอกชนิดของสินค้าตามที่จัดไว้เป็นหมวดหมู่ สะดวกในการค้นหาสินค้าตามที่ลูกค้าต้องการ อาจจะติดไว้ตามผนังห้อง หรือกึ่งกลางเหนือชั้นวางของ สินค้าใดวาง ณ จุดใด ก็ควรวางอยู่เป็นประจำ และไม่ควรเปลี่ยนแปลงที่วางสินค้าบ่อยเกินไป เพราะอาจจะทำให้ลูกค้าเสียเวลาค้นหาในครั้งต่อไปที่แวะเข้ามาซื้อสินค้าที่ร้าน
- การติดป้ายราคาสินค้า ในปัจจุบันลูกค้าส่วนใหญ่เริ่มให้ความสนใจในรายละเอียดของสินค้าเพิ่มมากขึ้น ทั้งรูปแบบของบรรจุภัณฑ์ ชื่อสินค้า วันผลิตและวันหมดอายุ คำแนะนำการใช้งานสินค้า ดังนั้นจะต้องติดป้ายบอกราคาเพิ่มให้กับตัวสินค้าซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดลงไปด้วย โดยต้องติดราคาบอกไว้บนตัวสินค้าทุกชิ้นให้ ชัดเจนพอที่ลูกค้าและพนักงานเก็บเงินจะอ่านได้ ยกเว้นสินค้าบางประเภทที่ขายเป็นจำนวนมาก เช่น เบียร์หรือเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลม มักจะติดราคาในรูปแบบของแผ่นป้ายหรือโปสเตอร์ เป็นการช่วยประหยัดแรงงานและเวลาได้ หากเป็นสินค้าประเภทเดียวกันแต่ต่างยี่ห้อกัน อาจจะติดราคาไว้ที่ชั้นวางสินค้าจะช่วยให้ลูกค้าเห็นและเปรียบเทียบราคากันได้ ถึงแม้ว่าจะต้องใช้เวลาและแรงงานในการติดราคาใหม่เมื่อสินค้ามีราคาเปลี่ยนแปลง แต่ก็เป็นการให้ประโยชน์และรายละเอียดเพิ่มเติมรวมถึงความสะดวกให้กับลูกค้า อีกทั้งยังเป็นการสะดวกในการคิดราคาสินค้าอีกด้วย
การจัดวางสินค้าบน ชั้นวางสินค้า เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีสำคัญในการจูงใจลูกค้าให้เลือกซื้อสินค้า เพื่อให้เกิดความสะดวกแก่ลูกค้าในการเลือกซื้อสินค้า ควรคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้
- ความพึงพอใจของลูกค้า
- จัดสินค้าไว้ในบริเวณที่เราจะขาย
- จัดสินค้าไว้ในระดับสายตาให้มากที่สุด
- จัดสินค้าด้านหน้าบนชั้นวางสินค้าให้เต็มอยู่เสมอ
- ชั้นวาง สามารถปรับระดับตามขนาดของสินค้าได้
- การใช้กล่องหนุนสินค้าให้ดูงดงามแม้จะมีสินค้าไม่มากนัก
- สินค้ามาก่อนต้องขายก่อน เนื่องจากเราต้องขายสินค้าเก่าก่อนสินค้าใหม่เสมอ ควรวางสินค้ามาก่อนไว้แถวหน้า และทำสินค้าที่มาก่อนให้ดูสดใสสะอาดเหมือนสินค้าใหม่อยู่เสมอ
- ความเป็นระเบียบเรียบร้อย เช่น ผงซักฟอกมีหลายยี่ห้อ และหลายขนาด ควรจัดให้เป็นระเบียบสะดวกในการเปรียบเทียบของลูกค้า ดังนั้นสินค้าที่เหมือนกันควรเอาไว้ด้วยกัน ควรจัดตามแนวนอน และอยู่ในระดับเดียวกัน
- ป้องกันหลีกเลี่ยงการรั่วไหลของสินค้า โดยการจัดวางผังทางเดินภายในร้านให้ลูกค้าเดินไปมาได้สะดวก แต่ก็มีข้อเสีย คือ สินค้าบางอย่างอาจบุบสลายหรือชำรุดหรืออาจถูกขโมยได้ง่าย โดยในแต่ละปีห้างสรรพสินค้าและร้านค้าโดยทั่วไปมักมีสินค้าขาดหายจากการถูกลักขโมยเป็นมูลค่านับแสนบาท
สินค้าที่สูญหายเพราะถูกหยิบฉวยและเหตุอื่นๆ เรียกว่าการรั่วไหลของสินค้า เจ้าของกิจการจะต้องมีมาตรการมาควบคุมการรั่วไหลให้มากที่สุดการจัดวางสินค้า จึงต้องเป็นไปในแนวทางที่เป็นการป้องกันการรั่วไหลได้ด้วย คือ หยิบก็ง่าย หายก็รู้ สินค้าที่บุบหรือชำรุด ใกล้หมดอายุควรจัดเป็นสินค้าลดราคาพิเศษ ล้างสต็อกด้วยการจัดแยกขายไว้ต่างหาก